ข่าว

  • เฉพาะติดต่อโฆษณา Contact Line : @kapooclub  (มี@ด้วยครับ)


ผู้เขียน หัวข้อ: มาร่วมกันบันทึกประวัติศาสตร์วงการอ่าง ออน. นวดกระปู๋ กันครับ  (อ่าน 4596 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ needsssss

  • Level 1 กาปู๋เด็กอ่อน
  • *
  • กระทู้: 15
  • Like: 2
เนื่องจากว่า วงการอ่าง อาบอบนวด นวดกระปู๋ในบ้านเรานั้น ก็มีวิวัฒนาการมาเรื่อยๆตั้งแต่หลาย 10 ปีก่อน

จากอดีตถึงปัจจุบันก็มีการเปลี่ยนแปลงมาตลอด รวมถึงในอนาคตก็ไม่อาจจะจินตนาการได้ว่าวงการนี้ในบ้านเราจะเป็นยังไง

จึงอยากเชิญชวนสมาชิกทุกท่านที่มีประสบการณ์มาร่วมกันแบ่งปันเรื่องราวตั้งแต่อดีตในยุคเริ่มแรกว่าสมัยนั้นเป็นยังไง

เช่น รูปแบบการบริการ สถานที่ น้องๆ ราคา ฯลฯ และสิ่งเหล่านี้ค่อยๆเปลี่ยนแปลงมายังไงจนถึงปัจจุบันนี้

เพื่อบันทึกไว้เป็นข้อมูลให้คนเข้าวงการใหม่ๆในยุคนี้หรือยุคหน้าได้เห็นที่มาคร่าวๆไว้อ่านกันสนุกๆเพลินๆครับ

ออฟไลน์ Devil17

  • Level 1 กาปู๋เด็กอ่อน
  • *
  • กระทู้: 17
  • Like: 0
ยุคผมที่เที่ยวนั้นเริ่มต้นจากวงการอาบอบนวดก่อน
ยุคนั้นที่ขึ้นชื่อลือชาสุดๆก็จูเลียน่า เป็นตำนานของบรรดาไซด์ไลน์ยุคแรกๆ
แต่ด้วยความที่ยังวัยรุ่นอยู่ ไม่ได้มีงบประมาณมาก ก็ได้แต่ไปดู แล้วไปหาจบที่อื่นแทน
ถ้าพูดถึงความคลาสสิคของอาบอบนวด ก็ต้องเป็นตู้กระจก
น้องๆนั่งเต็มตู้ บางทีแค่ไปนั่งจิบเบียร์ดูก็เพลินแล้ว
ส่วนยุคนี้ถ้าเป็นที่แพงๆ จะสร้างแบบให้ดูดี
ไม่มีตู้กระจกอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว แถมราคาก็ดีดไปแบบมหาโหดทีเดียว

ก่อนจะเข้ายุคนวดกระปู๋ มันจะมีช่วงคาบเกี่ยวของนวดแผนโบราณแบบแอบแฝง
และนวดไต้หวันอยู่ก่อนนิดนึง
ซึ่งก็เป็นต้นแบบของนวดกระปู๋ยุคแรกๆแหละ
ประมาณว่านวดแล้วคึก ต้องเปิดออฟชั่น เปิดบน 500 เปิดล่าง 1,000
จะให้น้องใช้ปากหรือทำอะไรมากกว่านั้นต้องจ่ายเพิ่ม
แล้วแต่เทคนิคที่น้องๆจะสรรหามาเรียกราคาและขึ้นอยู่กับการต่อรองของลูกค้าเอง
ส่วนมากยุคแรกน้องๆจะไม่ยอมให้จบ เพราะน้องไม่มีเครื่องป้องกันและสถานที่อาจจะไม่พร้อม
หรือหากอยากจบอาจจะต้องเตรียมเครื่องป้องกันไปเอง
บางที่กั้นเป็นห้องนวดอย่างเดียว ห้องอาบน้ำยังไม่มีด้วยซ้ำไป

จนพัฒนามาเรื่อยๆถึงยุคปัจจุบันที่รวมทุกอย่างในค่าคอร์สไว้หมดแล้ว

บางคนอาจจะชอบฟิลเมื่อก่อน ได้ต่อรอง
หรือบางครั้งเจอน้องไม่เคยทำงาน เราอาศัยเทคนิคลูกล่อลูกชน จนได้จบ ก็อาจจะเป็นความตื่นเต้นส่วนตัวกันไป
ไม่เหมือนยุคนี้ที่ค่าใช้จ่ายค่อนข้างชัดเจน
แต่บางคนก็อาจจะชอบแบบนี้ เพราะไม่ต้องมาเสียอารมณ์อะไรกัน

ส่วนคำว่าต่างกรรมต่างวาระ เอาจริงๆแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับทั้ง 2 ทาง
คือน้องๆเจอเรื่องอะไรมาในวันนั้นๆ มีอารมณ์แบบไหน อาจจะไม่อยากทำแต่โดนร้านโทรตาม หรือเงินหมด หรือเจอลูกค้าไม่ดี
ส่วนในแง่ลูกค้า บางทีก็ต้องเข้าใจว่าการจ่ายเงินไม่ได้หมายความว่าจะเป็นพระเจ้าได้เสมอไป

ออฟไลน์ โค้ง_ShellSee

  • Level 6 กะปู๋เป็นไฟ ลุกไหม้ ปฐพี
  • *
  • กระทู้: 390
  • Like: 13
 ผมเข้าวงการปู๋ปี 2557 ( 7 ปีที่แล้ว) พึ่งโสดเลยได้ท่องโลกสายนี้ 

 เข้าปีแรกที่เจองานน้องได้ 40 นาง  (ใน 50 รอบ 12 ร้าน) งานนวดปู่ล้วนๆ
 การเล้าโลม ลีลา นุ่มนวลบ้าง เล่นตัวบ้าง ตลกบ้างไรบ้าง มีความสุขดีครับ   เป็นงานนวดล้วนๆ มือๆ นมๆ อมบ้างนานๆที ทาสีก็ไม่บ่อย
 ผมเน้นราคาครอส ที่ 1500 -2000 โมเดล ไม่เกิน 3000

 เข้าปีที่ 2 ก็เก็บอีก 40 นาง (50 รอบ) ผมซ้ำบ้างไม่เกิน 2 รอบ งานที่ได้ยังคงเป็นสไตล์เดิม เพิ่มจบบ้าง ไม่มีออปชั่นแข่งขันใดๆ นอกจากเพิ่มเอง สเป 500 จบ 1500-2000

 เข้าปีที่ 3 เก็บแต้ม ไปได้ไม่เยอะน่าจะเกิน 20  เพราะไปซ้ำกับน้องคนนึง ไปเกือบ 30 รอบ ได้จบกันเกือบทุกรอบ
 ต้องบอกว่าก่อนปี 60 ราคาครอสจบจากร้าน แทบจะไม่มีเลย

 แต่ พอเข้าปีที่ 4 ปี วงการเริ่มเปลี่ยน มีหลายร้าน ทำราคาจบกันมากมาย
 นวดนาบ ก็เริ่มมีเกิดขึ้นบ้างตามกระแส  ก็เลยวนไปลองบ้าง ถือว่าแจ้ม  แล้วก็ลอง side line ด้วย รู้สึกไม่ใช่ทาง
 ไม่เหมือนกับการนวดปู๋ที่เคยชิน การมีอารมร่วม การเอาใจใส่ ไม่ได้ดีเหมือนนวดปู๋

 ผมเที่ยวน้อยลงปี ที่ 5 เพราะมีแฟนเป็นตัวตน วนแว๊บไปนวด นานๆที แต่ไม่มีความสุขเท่าการอยู่กับแฟนตัวเอง

 ถ้าประเมินงานหลังปี 61 มานี่หางานนวดดีๆ ยากครับ เพราะร้านไม่ค่อยจะสอนงานกัน เด็กใหม่มีเยอะมาก ซึ่งเน้นแต่งานจบ ขาดเสน่กระปู่ไปเยอะพอสมควร

ออฟไลน์ Alpha_619

  • Level 2 กะปู๋เด็กๆ เล็กๆ เหี่ยวๆ
  • *
  • กระทู้: 94
  • Like: 8
จากการที่เข้าวงการมาได้น่าจะ 7 กว่าๆเที่ยวบ้างพักบ้างแรกๆก็เป็นการนวดผ่อนคลายนัวร์บิ้วๆ แต่อย่างพี่เม้นบนบอกว่าหลังๆทั้งร้านและน้องเน้นจบมากเกินไป จนมันไม่ได้มาเป็นการนวดเหมือนเมื่อก่อนละ แต่ก็แล้วแต่คนชอบอะครับ แต่จะไม่ประทับใจเลยถ้าเราตั้งใจนวดแล้วน้องจ้องแต่จะจบไม่จ่ายเพิ่มก็ไม่อยากทำไรงี้  :038: :038: :038: ส่วนตัวผมมองว่า นกป กะ ออน ต่างกัน นกป หลักๆเลยคือมานวด ไม่จำเป็นต้องจบแต่ก็ฟินได้หลายรอบกว่า แล้วแต่ความสามารถของน้องๆในการนวดให้เราฟินได้ แต่หลายร้านตีความการ นกป ต่างไปเยอะ ส่วน ออน มันคือชุดใหญ่ไฟกระพริบกว่ายังไงต้องจบ แต่ได้น้ำเดียวตามคอร์ส คนละฟิวกัน  :035:

ออฟไลน์ mucachiiii

  • Level 1 กาปู๋เด็กอ่อน
  • *
  • กระทู้: 39
  • Like: 6
จากการที่เข้าวงการมาได้น่าจะ 7 กว่าๆเที่ยวบ้างพักบ้างแรกๆก็เป็นการนวดผ่อนคลายนัวร์บิ้วๆ แต่อย่างพี่เม้นบนบอกว่าหลังๆทั้งร้านและน้องเน้นจบมากเกินไป จนมันไม่ได้มาเป็นการนวดเหมือนเมื่อก่อนละ แต่ก็แล้วแต่คนชอบอะครับ แต่จะไม่ประทับใจเลยถ้าเราตั้งใจนวดแล้วน้องจ้องแต่จะจบไม่จ่ายเพิ่มก็ไม่อยากทำไรงี้  :038: :038: :038: ส่วนตัวผมมองว่า นกป กะ ออน ต่างกัน นกป หลักๆเลยคือมานวด ไม่จำเป็นต้องจบแต่ก็ฟินได้หลายรอบกว่า แล้วแต่ความสามารถของน้องๆในการนวดให้เราฟินได้ แต่หลายร้านตีความการ นกป ต่างไปเยอะ ส่วน ออน มันคือชุดใหญ่ไฟกระพริบกว่ายังไงต้องจบ แต่ได้น้ำเดียวตามคอร์ส คนละฟิวกัน  :035:

ถ้าอยากหาร้านไม่เน้นจบ ไป.สิครับ นี่ผมซ้ำปุยฝ้ายมาหกรอบน้องยังไม่ยอมจบเลย
เท่าที่รู้น้องร้านนี้ส่วนมากขายงานไม่ขายจบ
ลองดูนะ

ออฟไลน์ กระซิกๆ2

  • Level 4 กะปู๋โด่ ๆ จิ๊กโก๋ โตใหญ่
  • *
  • กระทู้: 174
  • Like: 9
สวัสดีครับ ผมเริ่มเข้าวงการตอน 2555 ช่วงเรียนอยู่ปี 4 ตอนนั้นทำงานนอกหาเงินเองไปเที่ยว เริ่มจากเว็บบาธ ยุครุ่งเรือง และก็ย้ายมาเว็บกระปู๋

ผมเริ่มจากการเที่ยว อาบ อบ นวด ตอนนั้นยังเด็ก ไม่กล้าเข้าที่หรูๆเลยไปเปิดซิงที่แนนซี่ เพชรบุรี และเที่ยวเรื่อยมา เดือนละ สองสามครั้ง จนเริ่มมา เมรี และ เอวิต้าประปาย เป็นที่รูจักของเชียร์แขก หัวหน้าเชียร์เพราะอายุเราน้อยและทิปหนัก ป๋าปัญญา แนนซี่ พี่เต่าเมรี
เที่ยวอ่างได้ประมาณ 3 ปี เริมเบื่อ และ เริ่มมาเข้าวงการนวดกระปู๋ช่วงปี 2558  ช่วงนั้นหลงแสงสีของนวดกระปู๋มาก เพราะเด็กสด ใหม่ ไม่ช้ำ แต่ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะทำใจให้ยอมรับได้กับงานที่ค่อนข้างจะแตกต่างกับอาบ อบ นวด ในเรื่องของการบริการต่างๆ หลังๆ เป็นเกมส์มีลูกอ้อนลูกชน ร้านไหนคนไหนเด็ดที่เขาไปกันแล้วหวดไม่ได้ จูบไม่ได้ ทาสีไม่ได้ ผมก็เก็บมาเยอะ ช่วงแรกๆ Zabb spa, Wow, Flower Spa หรือ หอหญิง ที่ว่า เด็ดๆ ผมก็หวดมาหมดร้านแล้ว ไปร้านเวลาน้องมาโชว์แทบจะไม่อยากหันหน้าให้ เพราะมาถี่มากจนน้องจำได้ หลังๆก็ย้ายมา The Pool, We Ok มีผูกปิ่นโตบ้าง ขวนมานอนค้างที่บ้านบ้าง นึกถึงน้องที่ทำแล้วหายหน้าหายตาบ้าง โทรไปกวนน้องให้ช่วยรับงานเพราะเราคิดถึงบ้าง ชวนไปดูหนังกินข้าว ให้ค่าเทอม หลงรักเด็กทำงานบ้าง ซึ่งผมมองว่าเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องธรรมดาที่ใครเข้าวงการมาต้องเจอนะ ใครไม่ได้พวกนี้ถือว่ามาไม่ถึงนะครับ

ก็ยังเที่ยวมาเรื่อยๆครับ สลับกับ อาบอบนวดบ้าง จนกระทั่งมามีโควิดนี่แหละครับ ที่คิดว่าจะหยุดเที่ยวให้ได้ถาวร รวมๆแล้วก็เกือบ 10 ปีในวงการ
ถ้าถามว่าอยากบอกอะไรกับคนรุ่นหลังๆที่เพิ่งเข้าวงการ ส่วนตัวผมว่าเที่ยวไปเถอะครับ ใช้ชีวิต และหาประสบการณ์ เมื่อถึงจุดนึงคุณจะหยุดของคุณเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่อง เงิน ครอบครัว หรือ การงานก็ตาม การเที่ยวทำให้ผมได้เจอสังคมที่หลากหลายนะ
ได้รู้จัก แง่, มุม ของคนในหลายๆแบบ ได้รู้จักความสงสาร เมตตา อยากช่วยเหลือก็มีนะ มันได้อะไรหลายๆอย่างครับ ผู้ชายอย่างเราๆถึงมีแฟน มันเอาแฟนตลอดไปไม่ได้หรอก เชื่อผมเถอะ มันเป็นธรรมชาติอยู่ในนิสัยของผู้ชายอย่างเราๆครับ

สุดท้ายผมก็ยังยืนยันนะ เที่ยวให้สุดมันต้องจบครับ ถ้าไม่จบ คุณไม่สุดหรอก คุณก็จะจินตนาการกับน้องคนนั้นคนนี้ไปเรื่อยๆ

ทั้งชีวิตผมมีคนเดียวที่ผมเที่ยวแล้ว ไม่ต้องการจบจริงๆ จนวันนี้ก็ยังไม่ได้เธอเป็นเมียนะ แต่ได้ความเป็นเพื่อน มีอะไรก็จะแวะไปหา ไปพูดคุย ไม่จำเป็นต้องให้เธอบริการด้วย แค่ไปพูดคุยก็สบายใจละ
ไม่ต้องหลังไมค์มาถามนะครับ ผมไม่บอก แต่เป็นคนที่หลายท่านเคยขึ้นงานด้วยแหละ ผมเชื่อแบบนั้น เพราะเธอก็ดังอยู่พอตัวเลย

ใช้ชีวิตให้คุ้มและมีความสุข สนุกไปกับมันครับ  :035:

ออฟไลน์ I’mQ

  • (คุณชายคิว)
  • Level 15 ศาสตราจารย์กะปู๋วิทยา
  • *
  • กระทู้: 12,845
  • Like: 476
+1 ให้ท่านเจ้าของกระทู้

ตั้งหัวข้อกระทู้ได้น่าสนใจ และจูงใจให้คิวอยากจะเขียน*บันทึก*คิวนวดกระปู๋ตามประสบการณ์ที่ผ่านมา หลังจากว่างเว้นไปนานพอควร

อย่างไรก็ตาม คิวขอ*บันทึก* โดยเริ่มหัวข้อใหม่ ด้วยคิวอาจใช้เวลาพอควร ค่อยๆนึก ค่อยๆเรียบเรียง และค่อยๆบันทึก
ตามสไตล์และความสะดวกของคิว

ขอบคุณครับ

 :81:


ออฟไลน์ saitei

  • Level 2 กะปู๋เด็กๆ เล็กๆ เหี่ยวๆ
  • *
  • กระทู้: 67
  • Like: 3
เข้าวงการเมื่อสามปีก่อน อาจจะไม่ใช่เซียนของวงการ แต่ก็เข้าใจความชอบของตัวเองประมาณหนึ่ง

ส่วนตัวชอบแบบไม่ต้องลุ้นจบ เพราะบางเจอครั้งเรียกแพงเกินมาตรฐาน บางทีก็เหมือนมาดูน้องเล่นละครทำเป็นอินไปกับเราแล้วยอมให้จบหลอกให้เราฟิน ทั้งที่จริงก็ยอมกับทุกคน อะไรอย่างงี้555 แต่ก็ไม่ชอบฟีล ออน. เพราะมันดูเป็นโรงเชือดที่เอิกเริกเกินไป บอกไม่ถูก555 ก็เลยต้องเป็น นกป. (สมัยนี้) เท่านั้น

ใหม่ๆ ก็เที่ยวไม่เป็น ผิดหวัง 90% กับการจองแบบไม่เห็นหน้า หรือเชื่อคำโปรยในโฆษณา ได้บทเรียนเลยว่าต้องไปดูเองกับตาที่ร้านตลอด ผมเป็นคนเรื่องมาก แต่เสือกมีงบจำกัด555 แต่ก็สุภาพกับร้านและน้องตลอดนะ มีแต่น้องบอกว่าขึ้นงานกับผมคืองานสบาย555 ก็คิดว่ายังไม่ชอบใครก็ไม่ต้องขึ้น เงินเราของเรา กำไว้ให้แน่นแล้วมาใหม่วันหลัง เก็บไว้ให้น้องที่เหมาะกับเราดีกว่า สุดท้ายก็โดน ถ้าโดนใครก็จะคอยซ้ำอยู่เรื่อยๆ

เจอพวกไม่ตรงปก จกตา หรือน้องสภาพไม่พร้อม ไม่เต็มใจทำงาน ผมถือว่ารับไม่ได้ เพราะเราเสียเงินไปกับสิ่งที่คาดหวัง ตามคำบอกจากร้านไปแล้ว
ใหม่ๆ เที่ยวแต่ร้านใกล้บ้าน ชอบเจอแต่ราคาแพงบ้าง PR ไม่รับแขกบ้าง ให้เวลาน้อยบ้าง หรือไม่ก็ร้านสุดฮ็อตที่ลูกค้าเยอะขึ้นจนความเอาใจใส่เปลี่ยนไปจากเดิม<<อันหลังนี้ก็เข้าใจได้ แต่ฟีลมันไม่เหมือนแรกๆ แล้วอะ ก็เลยลองขยายอาณาเขตไปไกลขึ้นบ้าง

ทำให้ได้เจอร้านอีกมากที่เราพอใจ
ถึงจะอยู่ไกล แต่พอได้เจอร้านที่น้องงานดี ราคาพอเหมาะ PR จริงใจและเทคแคร์ลูกค้า แล้วก็อยากจะบึ่งรถไปอุดหนุนบ่อยๆ (หลังไมค์มาถามได้เลยครับ ผมไม่ใช่หน้าม้าเป็นแค่ลูกค้าจอมเรื่องมากแต่เสือกงบน้อยคนหนึ่ง555)

ตั้งแต่เที่ยวมา ก็เปลี่ยนมุมมองเรื่องความรักความสัมพันธ์ไปเยอะพอสมควรเลย ไม่รู้นะว่าเปลี่ยนไปในทางที่ดีหรือไม่ดี555 แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่สนุกมากๆ เลยครับ

ออฟไลน์ HOYT

  • Level 4 กะปู๋โด่ ๆ จิ๊กโก๋ โตใหญ่
  • *
  • กระทู้: 156
  • Like: 8
เริ่มเที่ยว ออน SL ตอนอายุ 31 จุดเริ่มต้นเพราะอกหักจากผู้หญิงที่หมายปอง แล้วอยากหาอะไรปลอบใจตัวเอง หลังจากนั้นก็กลายเป็นติดอ่างเลย
เริ่มเที่ยว นกป ตอนอายุ 33 เพราะถูกใจความสวยของน้องใน นกป เรตจบที่พบเจอ