สุดท้ายก็เป็นปัญหาโลกแตกระหว่าง Money Talk และ น้องให้ฟรี
พอน้องคุยตกลงเรื่องเงินก่อน (ไม่ว่าจะ Option หรือจะไปสุดทางไหนต่อไหน) ก็ว่าน้อง Money Talk
พอน้องไม่พูดก่อน ก็กลายเป็นว่าน้องให้ฟรีเองนี่ ... ??
ผมว่าลึกๆก็เป็นความ"หัวหมอ"ของคนเที่ยวเองแหละ (พูดตรงๆ)
เราเจอน้องที่ร้าน ต้องคิดไว้ก่อนเลยว่า "น้องมาทำงาน" .... ดังนั้น คนมาทำงาน ก็ย่อมต้องการสิ่งตอบแทนให้หายเหนื่อย นั่นก็คือ เงิน นั่นแหละ
บรรดานักเที่ยวก็ต้องคำนึงไว้เสมอว่าสิ่งที่น้องให้ท่านมาที่เกินมาตรฐานจากคอร์ส ท่านควรจะมีสิ่งตอบแทนให้น้องเสมอ (ของฟรีมักไม่มีในโลก)
... นอกซะจาก เราให้น้องแล้ว น้องไม่รับหรือปฏิเสธ .... ไม่ใช่ทำหน้ามึน ไม่ให้อะไรเลย (หรือให้น้อยซะจนน่าเกลียด) คิดในใจอย่างเดียว .... กุได้ฟรี น้องให้กุเองนี่
อย่างที่หลายๆท่านบอก การที่น้องไม่พูดก่อน อาจเพราะน้องต้องการวัดใจหรือต้องการเอาใจลูกค้าโดยไม่พูดเรื่องเงินให้ลูกค้าอารมณ์เสีย
เราจึงต้องตอบแทนน้อง อย่าให้น้องเหนื่อยฟรีนะครับ
ถ้าคิดว่าน้องให้ฟรี .... จากประสบการณ์ของผม ในการไปเที่ยวที่ผ่านมา น้องๆ 70-80% (ประมาณ 7 หรือ 8 คน ใน 10 คน)
ไม่ได้คุยหรือตกลงอะไรกันก่อน งานก็ไหลไปไหนต่อไหนเองโดยอัตโนมัติ
ถ้าผมคิดว่าน้องให้ฟรีเอง ... ผมคงสบายตัว สบายกระเป๋าตังค์ไปแล้วล่ะครับ (จะไปนวดมันให้ทุกวันเลย 555)
ปล. 1
น้อง Money Talk สำหรับผมหมายถึง
1. น้องตื๊อจะให้ทำพิเศษหรือตื๊อเรียก Option จนลูกค้ารำคาญ (แบบไม่มีศิลปะในการนำเสนอ)
2. น้องคิดค่าพิเศษแพงเว่อร์ (อันนี้ต้องแยกให้ออกว่าน้องเรียกแพงไป หรือ เพราะน้องไม่อยากทำจริงๆ)
ปล. 2
กรณีที่เป็นการบริการพิเศษแบบฟรี
1. งานไหล เราให้น้องตามที่ควรจะเป็น แต่น้องปฏิเสธที่จะรับจริงๆ
2. น้องจะทำให้เรา แต่เราปฏิเสธ และควรจะบอกน้องแบบสุภาพว่าเราไม่เอาเพราะอะไร ไม่ว่าจะเรื่องความพร้อมของร่างกาย ความพร้อมของเงินในกระเป๋า
แต่ถ้าน้องยังจะดึงดันจะทำให้ (ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่ว่าน้องคลิ๊กเรา หรือ อารมณ์น้องมา) และบอกว่าไม่เอาอะไรเพิ่ม .... ก็รับไว้เถอะครับ (อย่าให้เสียน้ำใจ อิอิ)
ปล. 3 นานๆเขียนที ... ยาวกว่าการบ้านอีกแฮะ 555