ผมว่าช่วงนี้ถี่มากไปจนแทบรู้สึกเหมือนจะกลายเป็นเซลประจำร้านไปแล้วนะนี่......
วันก่อนโดนเพื่อนก๊วนนึงลาก เมื่อวานก็โดนอีกคนลากไปซ้ำอีกเดินเข้าออกถี่น้อยกว่าเข้าบ้านนิดเดียว
แถมเหมือนไม่รู้ไปจุดประกาย หรือ น้องเค้าเห็นแสงสว่างอะไรในตัวผม มียุให้เขียนการบ้านอยู่ตลอด
เมื่อวานนี้ก็กะมาแบบประหยัดๆหน่อยเพราะวันก่อนก็เพิ่งมาไปเลยจองผิงผิงไว้คนเดียว แต่ก็แอบเตรียมใจรับข้อเสนอแปลกๆไว้อยู่ (เรียกว่าชอบอะไรตื่นเต้น แต่ไม่ค่อยอยากคิดเอง)
ผิงผิงเจอหน้าก็หัวเราะเลย ลากเข้าห้องไปบอก พี่หมื่นวันนี้อยากได้แบบไหน อยากให้น้องจัดการพี่คนเดียว หรือ เรียกคนมารุมพี่
พูดเสร็จก็ไซร้คอปุบไปที นัวๆกันอยู่สักพักผมก็บอกตามแต่ออเจ้าประสงค์เลย
ผิงผิงก็เลยบอกว่า ความจริงมีคนอยากเจอพี่ดู ผมถึงได้รู้ว่า เดี๋ยวนี้กลายเป็นหัวข้อบอกต่อไปแล้วเรื่องน้องชายเป็นคนดื้อ
ประเด็นคือไอ้น้องชายคนนี้ของผมเนี่ยมันไม่ได้ดื้ออย่างที่ทุกคนคิด ถ้าเข้าหาอย่างถูกวิธีแล้วก็จะกลายเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายคนนึง
และการสยบน้องชายคนดื้อผมลงได้เนี่ย ก็จะเหมือนกับน้องๆในร้านเหมือนได้สำเร็จวิชากำลังภายในใหม่
แบบเพิ่งรู้ว่าตัวเองกลายเป็นที่ฝึกวิชาไปเรียบร้อย

พอแก้มเข้ามาถึงก็ยิ้มให้ บอกว่าได้ยินกิตติศัพท์พี่มานานแล้ว ก็เลยลองขอผิงผิงดูว่าถ้าพี่ขึ้นคู่รอบหน้าขอเค้าบ้างได้มั้ย
นี่มีการจัดคิวมาเชือดเราเลยเรอะ!! แย่แล้ว!!
ผิงผิงก็หัวเราะร่วน บอกว่าเวลาแกล้งผม ปราบพยศผมได้แล้วสนุก
(ซึ่งความจริงผมก็ชอบนะเวลาโดนแกล้ง ผมน่าจะเป็น M หน่อยๆแน่)
เราก็ลากกันเข้าไปในห้องน้ำก่อน
ทีนี้เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่แก้มขึ้นกับผม ผิงผิงก็กลัวว่าเดี๋ยวเสร็จไม่ทันเลยไม่ได้บอดี้กันในห้องน้ำสักเท่าไหร่
อาบน้ำสะอาดสะอ้านปุบก็รีบลากกันมาต่อบนเตียงเลย
แล้วน้องก็บอกให้ผมปิดตา บอกวันนี้มาชุดใหม่อีกแล้ว
วินาทีนั้นผมคิดว่า ผมกำลังจะได้เห็นแทบทุกชุดแล้วสินะในคอร์สแซนวิช...
แต่รอบนี้สารภาพเลยว่าผมเบลอจริงๆ จำอะไรไม่ได้เลยว่าชุดเป็นยังไง หัวนี่โล่งไปหมด
ทั้งคู่เริ่มก็ทำงานกันเป็นทีมเหมือนบรีฟกันมา
ออเจ้าได้ส่งต่อวิชาไปให้ศิษย์คนอื่นในสำนักแล้วสินะ....
แก้มลงมือจัดการช่วงล่างเจ้าน้องชายสุดดื้อของผม
ส่วนผิงผิงก็ค่อยๆไซร้เริ่มจากเอวขึ้นมา ชโลมลิ้นขึ้นไปผ่านสะดือ หน้าอก ขึ้นมาคอ หู หน้าผาก
แล้วค่อยๆเปิดชุดแหวกท่อนบนออกมา กอดจูบกันพัลวัน
ที่สะเทือนใจคือเหมือนแก้มจะรู้จุดผมจากที่ฟังคำบอกใบ้ของคนอื่นๆ พอเริ่มจับไปสักพักเหมือนเข้าจุดแบบ เข้ามากๆ
ปกติแล้วผมจะเก็บอาการมาก อาจจะมีตอนใกล้เสร็จเท่านั้นแหละที่แบบอาจจะหลุดร้องเสียงหลงออกมา
แต่นี่พอเข้าจุดปุบ ผมรู้สึกได้เลยว่าตัวงอ ร้องเสียงหลงออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจเลยทีเดียว
ผิงผิงเห็นอาการผมขึ้นก็ยิ่งรุกหนักเข้าไปอีกแบบไซร้นัวรัวๆจนหัวผมมันเริ่มโล่งๆ
พอใกล้ๆจะเสร็จเท่านั้นแหละ แก้มเบรกเอี๊ยดกลับมาเป็นจังหวะช้าๆผ่อนให้น้องชายผมได้พัก พร้อมๆกับที่ผิงค่อยๆเปลี่ยนจังหวะมาช้าลง
บอกว่าพี่ใกล้เสร็จแล้วล่ะสิ แต่ผิงกับแก้มยังไม่ให้พี่เสร็จเดี๋ยวจะไวไป เพราะรุ้กันว่าปกติผมจะเสร็จรอบเดียว (เคยพยายามต่อยกสองแล้วแต่เหมือนเวลาไม่เคยจะพอ)
พอช้าลงได้ไม่ทันไรก็เริ่มกลับเข้าจังหวะที่บรรยายมาอีกรอบ เป็นความรู้สึกแบบ จะเสร็จๆ แล้วก็โดนจับอั้นไว้ให้ไม่เสร็จ วนอยู่อย่างนี้สัก 3-4 รอบซึ่งรอบนึงก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีได้
พอเข้ารอบที่ 5 ผิงผิงก็มองหน้าผมยิ้มแบบเจ้าเล่ห์แล้วถามผมว่า พี่อยากเสร็จรึยัง
ต้องบอกว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมถึงกับพูดคำแบบ น่าอายมากกกกกกก สำหรับการที่ผู้ชายอย่างเราๆจะเป็นฝ่ายขอร้องให้น้องทำให้จบงาน
เพราะปกติเราเป็นผู้ชายอ่ะนะ เราก็อยากจะเป็นคนคุมเกม เป็นคนเลือกเองว่าตอนนี้อยากเสร็จหรือยัง แบบถ้าเห็นเวลาเหลือเยอะก็อาจจะยังอยากต่ออีกหน่อยมันๆฟินๆ
แต่ตอนนั้นมันไม่ไหวแล้วจริงๆ สังหรณ์ใจว่าถ้ายังปากแข็งนี่จะเจอยก 5-6-7 ตามมา แต่ตอนนั้นหัวเหมือนเบลอไปหมด ตัวเกร็งงอเป็นกุ้ง
พอพูดว่าปล่อยพี่เสร็จเถอะ ผิงผิงยิ้มเหมือนได้รับชัยชนะแล้วบอกว่า "ใช้ไม่ได้เลย ทีหลังต้องขอร้องนะ"
แล้วผิงผิงก็เร่งจังหวะ ส่วนแก้มก็เปลี่ยนวิธีชัก ไวขึ้นๆ จนในที่สุดเจ้าน้องชายผมก็สิ้นชีพ
ชั่วโมงนี้บอกเลยว่าหัวผมนี่โล่งเกลี้ยงไปหมด จำอะไรไม่ได้เลยเหมือนคนเป็นอัลไซเมอร์ นี่แหละเป็นสาเหตุว่าทำไมผมถึงจำชุดรอบนี้ไม่ได้
เสร็จแล้วเราก็ลากกันไปอาบน้ำกอด นัวเนียกันต่ออีกนิดหน่อย
ก่อนจะมาสครับเท้า นวดต่อ ก็หมดเวลาพอดีเป๊ะ

พอเสร็จปุบผมก็ขอผิงผิง บอกรอบหน้าเล่นแรงแบบนี้ไม่เอานะ กลัวจะหัวใจวายตาย
แก้มบอกว่า ผมเหมือนจังหวะจะบิ้วท์ต้องใช้วิธีจับรูดแบบนึง แต่ตอนที่เสร็จอ่ะต้องเปลี่ยนไปใช้อีกวิธีจับนึงแล้วก็อีกจังหวะ
ความจริงที่แกล้งตอนแรกเนี่ยก็แบบลองผิด ลองถูกดูว่าผมจะเสร็จแบบไหน แต่วิธีบิ้วท์ให้แข็งเนี่ยจับจุดได้เรียบร้อยแล้ว เรียกว่าเสกให้แข็งได้ตามใจนึกแล้ว
มีการบอกมาอีกว่า รอบหน้านี่อยากเกือบสุดกี่รอบสั่งได้เลยแล้วยิ้ม

ชั่วโมงนี้ผมนี่กลัวใจตัวเองเลย แบบว่าไม่เคยเสียการควบคุมตัวเองแบบนี้มาก่อน
ถ้าเทียบความรู้สึกก็เหมือนกับงานอื่นๆที่ผ่านมาเวลามาขึ้นเหมือนคุณกำลังโลดแล่นไปบนจักรวาลมาร์เวล
มันสนุก มันตื่นเต้น แต่มันคาดเดาได้
แต่อันนี้เหมือนคุณกำลังดูหนังระทึกขวัญอยู่ คือ ทุกอย่างมัน
สนุก ตื่นเต้น หวาดเสียว และไม่มีอะไรอยู่ภายใต้การควบคุมของเราเลย
เป็นประสบการณ์ใหม่มากจริงๆ เรียกว่างานระทึกตึ๊กตั๊กเหมาะสำหรับประสบการณ์ใหม่ๆที่ไม่จำเจเหมือนหนังไมเคิลเบย์แล้วกัน
