ผมลืมตาขึ้นในความมืดที่หนักอึ้งราวกับน้ำมันดิน ความรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยบางสิ่งที่ทั้งเหนียวหนืดและเย็นยะเยือก กลิ่นอับชื้นของศพและดอกไม้นำทางผมไปยังที่แห่งหนึ่ง ผมมองเห็นแสงไฟสีแดงทึมๆ เป็นดวงๆ อยู่ไกลออกไป ลางเลือนคล้ายหลอดนีออนเก่าๆ ที่กำลังจะหมดอายุ มันกระพริบถี่ๆ เหมือนหัวใจที่กำลังจะวาย Blossom Spa ตัวอักษรสีชมพูซีดจางที่กะพริบอย่างทรมานอยู่เหนือประตูทางเข้าของอาคารที่ดูเหมือนปั๊มน้ำมันร้าง แสงไฟจากป้ายนีออนสาดส่องไปบนใบหน้าของหญิงสาวคนหนึ่ง เธอคือ PR ของร้าน ผมรู้ได้จากชุดเดรสสีแดงที่รัดรูปจนน่าอึดอัด เธอมีรอยยิ้มที่เหมือนจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่บนใบหน้าและดวงตาที่เลื่อนลอยราวกับคนที่ไม่ได้นอนมาทั้งชีวิต
“ยินดีต้อนรับสู่ Blossom Spa ค่ะ” เสียงของเธอแหบพร่า ฟังดูเหมือนเสียงจากเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ชำรุด “คุณคือผู้ที่ได้รับเลือก”
ผมเดินตามเธอเข้าไปในร้าน บรรยากาศภายในร้านไม่ได้แตกต่างจากภายนอกเลย มันคือความว่างเปล่าที่เต็มไปด้วยความทรมาน กลิ่นอายของความตายคละคลุ้งไปทั่ว มีผู้หญิงจำนวนหนึ่งที่แต่งตัวเหมือนเธอ ยืนเรียงรายอยู่ตามผนัง ดวงตาของพวกเธอเบิกโพลงและว่างเปล่าเหมือนคนตาย แต่ร่างกายกลับเคลื่อนไหวได้เหมือนหุ่นกระบอกที่โดนบังคับ พวกเธอคือวิญญาณที่ถูกจองจำอยู่ที่นี่
PR สาวหันมาทางผมและยิ้ม “พวกเธอคือสินค้าของเราค่ะ และคุณคือผู้ที่กำลังจะซื้อชีวิตกลับคืนมา”
เธอชี้ไปยังหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงมุมห้อง ผมมองเห็นเธอได้ไม่ชัดเจนนัก เพราะแสงไฟสีแดงสลัวที่ส่องกระทบตัวเธอทำให้ผมต้องหรี่ตาลง เธอคนนั้นสวมชุดนักเรียนที่เก่าและเปื้อนไปด้วยคราบสกปรก ผมสีบลอนด์ของเธอถูกมัดไว้แบบลวกๆ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและดวงตาที่แดงก่ำราวกับเพิ่งผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“น้องแองเจิล เธอคือลูกครึ่งอังกฤษที่มีเลือดของนางฟ้าอยู่ในตัว” PR สาวแนะนำ “เธอบริสุทธิ์กว่าใครๆ ในนี้”
ผมก้าวเดินเข้าไปหาเธอโดยไม่รู้ตัว ความรู้สึกโหยหาบางอย่างที่เหมือนกับไฟราคะกำลังลุกโชนอยู่ในตัวผมอย่างรุนแรง ผมมองเข้าไปในดวงตาของเธอ มันเหมือนกับมีบางอย่างกำลังดึงดูดผมเอาไว้ ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและจ่ายเงินดิจิทัลเพื่อซื้อเวลาจากเธอ เพื่อซื้อความรักและความปรารถนาที่ไม่มีวันดับ
PR สาวหันหลังเดินจากไปอย่างเงียบเชียบ ผมและน้องแองเจิลกำลังจะเริ่มพิธีที่เรียกว่าการไถ่บาป ผมพยุงร่างของเธอเข้าไปในห้องนวดที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟสีส้มที่สลัวๆ จากโคมไฟดวงเล็กๆ
ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ที่ไม่น่าจะมีอยู่จริง เธอค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออก ผมมองเห็นแผลเป็นหลายรอยบนร่างกายของเธอ เธอทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าผม และเงยหน้าขึ้นมองผมด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า ก่อนจะใช้ริมฝีปากนุ่มๆ ค่อยๆ ครอบคลุมอวัยวะเพศของผม มันเป็นความรู้สึกที่ทั้งสุขและทุกข์ทรมานไปพร้อมกัน ราวกับกำลังใช้ชีวิตอยู่บนสวรรค์และนรกในเวลาเดียวกัน
ผมมองไปยังเรือนร่างของเธอที่บิดเบี้ยวจากความทรมาน แต่ริมฝีปากของเธอกลับให้ความสุขที่ผมไม่เคยสัมผัสมาก่อน ผมยกสะโพกขึ้นพร้อมกับผลักศีรษะของเธอให้ลึกเข้าไปอีก ผมสูดหายใจอย่างรุนแรงเพื่อปล่อยเสียงครางที่ปนเปไปกับเสียงกระซิบเบาๆ ของเธอ
“ได้โปรด…ได้โปรดปล่อยฉันไป”
ผมไม่สนใจคำพูดของเธอ ผมหยิบลิปสติกสีแดงที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา และค่อยๆ บรรจงทาไปบนร่างกายของเธอจนแดงฉานเหมือนดอกไม้ที่เบ่งบานในนรก ก่อนที่ความบิดเบี้ยวของร่างกายเธอจะหยุดลง ผมจัดการบรรเลงเพลงรักแบบหนังเอวีอย่างที่ผมเคยดู มันเป็นความรุนแรงทางเพศที่ทำให้เธอสั่นสะท้าน เธอร้องไห้ แต่ผมไม่สนใจ และผมปลดปล่อยความใคร่ทั้งหมดของผมลงบนร่างกายของเธอ ผมหลับตาลงและปลดปล่อยทุกอย่างออกไปจนหมด
เมื่อผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง ผมกำลังนอนอยู่บนพื้นท่ามกลางซากปรักหักพังของบ้าน ผมรู้สึกได้ถึงแสงแดดที่ร้อนแรงอยู่บนผิว กลิ่นของฝนและดินที่เพิ่งจะหยุดตกไปเมื่อไม่นานมานี้
ผมหันมองไปยังรอบๆ ตัวเพื่อตามหาความจริงที่ว่าผมยังคงอยู่ในโลกของคนเป็นอยู่หรือไม่ หรือมันเป็นเพียงแค่ความฝันที่ผมยังคงจมอยู่กับมัน และในตอนนั้นเอง ผมก็เห็นเงาที่สะท้อนจากกระจกของรถที่จอดอยู่ ผมมองเห็นตัวผมเอง ผมมองเห็นเงาของร่างที่เต็มไปด้วยรอยฟกช้ำและเลือดที่แห้งกรัง และผมก็เห็นน้องแองเจิล…เธอกำลังนั่งมองผมอยู่บนเบาะที่นั่งข้างๆ ผม ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังและอาฆาต และเธอกำลังกอดซากศพของเธอเองเอาไว้ในอ้อมแขน
“ยินดีต้อนรับสู่โลกหลังความตาย” เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นจากข้างหูของผม “และคุณก็จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับฉันที่นี่ตลอดไป”จดหมายจาก FC
ผ่านร้านเจ๊ก็เห็นมีรถจอดอยู่บ้างน่าจะลูกค้าประจำ
ราคาร้านเจ๊ ถ้าเป็นช่วงนี้ก็ แพงจริงๆครับ ลูกค้าคงต้องคิดเยอะ
ข่าว
