ข่าว

  • เฉพาะติดต่อโฆษณา Contact Line ID : kapooclub.com



ผู้เขียน หัวข้อ: มอนิ่งนะคะพี่ๆ💋น้องเพลง Blossom Spa🕸️ จะเยียวยาทุกอย่าง🪲🦟🪳🪰🐝🦗🐜🐌🐚🦇💯  (อ่าน 153 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ Memoria'

  • Level 9 กะปู๋ตอร์ปิโด ชี้โด่สุดขอบฟ้า
  • *
  • กระทู้: 1,144
  • Like: 10
  • เพศ: ชาย
Blossom Spa: ประตูบานนั้นยังเปิดไว้
เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังกรุ๊งกริ๊งเบาๆ เมื่อน้องเพลงก้าวผ่านประตูบานนั้นเข้ามายัง Blossom Spa กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้และน้ำมันอโรมาลอยแตะจมูกชวนผ่อนคลาย แต่ภายใต้ความสงบงามนั้น เธอสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ไม่ชอบมาพากล
“คุณเพลงใช่ไหมคะ?” เจ๋ร้าน ผู้เป็นเจ้าของร้านกวาดสายตามองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาที่ยากจะอ่านออก “มาทางนี้เลยจ้ะ ฉันให้รูปเธอไปแล้วนะ แต่ก็ไม่คิดว่าตัวจริงจะ… ตรงปกขนาดนี้”
เจ๊เป็นคนส่งข้อความมาหาผมทางไลน์พร้อมกับรูปถ่ายที่เบลอใบหน้าของน้องเพลงจนแทบมองไม่เห็น เจ๋ระบุว่าห้องนวดเบอร์ 6 ที่เป็นห้องลับสุดของร้านว่างอยู่ และต้องการให้ผมมาขึ้นงานด่วนกับน้องเพลง
น้องเพลงได้รับมอบหมายให้ดูแลลูกค้าคนสำคัญที่สุดของร้านในห้องเบอร์ 6 ซึ่งเป็นห้องที่เจ๊ยืนยันว่าไม่มีใครเคยเข้าไป แต่ความรู้สึกของน้องเพลงกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเดินผ่านห้องต่างๆ ในร้าน เธอเห็นผู้ชายหลายคนที่ยืนมองเธอจากทางหน้าต่างกระจก พวกเขาไม่ใช่ลูกค้า แต่เป็นใครก็ไม่รู้ และพวกเขากำลังรอฉันอยู่
เธอเข้ามาในห้องเบอร์ 6 ห้องที่มืดสลัวและเย็นยะเยือกจนน่าประหลาดใจ ต่างจากห้องอื่นๆ ที่สว่างไสว ภายในห้องนั้นมีเตียงนวดตั้งอยู่ตรงกลาง และมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งรออยู่บนเตียง เขาคือ ผม ที่เป็นที่รักของน้องๆ ในร้าน แต่เป็นศัตรูตัวฉกาจของเจ่ร้าน
“พี่…” ฉันพยายามพูดให้น้ำเสียงเป็นปกติที่สุด แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
ผมไม่ได้ตอบอะไร ผมแค่ยิ้มมุมปากและชี้ไปที่เตียงนวด และในนาทีนั้น ความสัมพันธ์ของเราก็ก้าวล้ำเส้นจาก B2B ไปสู่ full option ผมเริ่มใช้ปากและลิ้นจนเธอเริ่มมีปฏิกิริยาที่แปลกไป ความรู้สึกจากความสัมพันธ์ทางกายกับพลังงานบางอย่างที่มองไม่เห็นภายในห้องเบอร์ 6 เริ่มกลืนกินเธอเข้าไปในความมืดที่ไร้จุดสิ้นสุด
เธอเห็นภาพหลอนของตัวเองที่กำลังทำพิธีกรรมบางอย่างเพื่อดูดเอาพลังชีวิตของผมและผู้ชายในร้านที่เธอเห็นจากหน้าต่าง ฉันอยากจะหยุด แต่ร่างกายกลับไม่เป็นไปตามที่ฉันต้องการ และนั่นทำให้ฉันกลายเป็นหุ่นเชิดของบางสิ่งในห้องนี้
ผมลืมตาขึ้นอีกครั้ง ผมอยู่ในภวังค์และเต็มไปด้วยความสุข แต่เธอรู้สึกเหมือนวิญญาณของผมถูกบางสิ่งบางอย่างดึงออกไปจากร่างกายอย่างช้าๆ ผมไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
"นี่คือวิญญาณที่ผมเห็น..."
"คุณเพลง คุณมีบางอย่างที่ผมไม่สามารถบอกได้..."
ผมลุกขึ้นจากเตียง และเริ่มเดินตรงเข้าไปยังประตูห้องเบอร์ 6 ที่เปิดแง้มไว้ แล้วก้าวเดินเข้าไปในความมืด ผมเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งประตูนั้นปิดลง และทุกอย่างก็กลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง
เธอเดินเข้าไปหาเจ๊ที่เคาน์เตอร์ เธอยังคงยิ้มเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ๊ยื่นซองจดหมายฉบับหนึ่งให้ฉัน
“นี่เป็นค่าจ้างของเธอสำหรับคืนนี้ และยินดีต้อนรับสู่ Blossom Spa นะเพลง”
เธอเปิดซองจดหมายออกดู และสิ่งที่อยู่ข้างในกลับไม่ใช่เงิน แต่เป็นนามบัตรของสุสานแห่งหนึ่ง
“ลืมบอกไปนะเพลง ว่าที่นี่เราไม่ได้มีแค่ลูกค้าที่เป็นมนุษย์ แต่ยังมีลูกค้าจากโลกอื่นด้วย” เจ๊หันหลังให้เธอพร้อมกับหัวเราะเสียงดัง “ประตูบานนั้นมันเปิดไว้เสมอสำหรับคนที่อยากจะเข้ามา”

ออฟไลน์ Onlyfans

  • Level 3 กะปู๋เริ่มเสียว หัดเที่ยว กำลังโต
  • *
  • กระทู้: 133
  • Like: 2
 :048: +1 หลอนจัง

ออฟไลน์ Memoria'

  • Level 9 กะปู๋ตอร์ปิโด ชี้โด่สุดขอบฟ้า
  • *
  • กระทู้: 1,144
  • Like: 10
  • เพศ: ชาย
คำโกหกที่พบมากในหมู่คนทำงาน
ในโลกของการทำงาน… มีคำพูดบางอย่าง ที่เราได้ยินจนชินหู แต่ถ้าฟังให้ดี ลึกลงไปในนั้นแฝงด้วย “คำโกหก” ที่ทั้งเราและคนรอบข้างต่างเคยพูด หรือแม้แต่หลอกตัวเอง
1. “ไม่มีอะไร… ผมโอเค”
คำพูดนี้ออกจากปากคนที่กำลังใจสั่น แต่ต้องยิ้มไว้เพราะกลัวถูกมองว่าอ่อนแอ
ในที่ทำงาน คนส่วนใหญ่เลือกเก็บทุกอย่างไว้ข้างใน เพราะรู้ว่าที่นี่คือ “สนามรบ” มากกว่า “บ้านที่ปลอดภัย”
2. “เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำก็ได้”
จริงๆ ลึกๆ เขารู้ว่าพรุ่งนี้ก็ยุ่งเหมือนเดิม แต่ก็ยังปลอบใจตัวเองให้เลื่อนไปเรื่อยๆ เพราะใจล้าเกินกว่าจะเริ่มในวันนี้
3. “หัวหน้าก็ไม่แย่หรอก”
พูดกับเพื่อนร่วมงาน ทั้งที่ในใจโกรธจัด แต่เพราะการเผชิญหน้ามันยากกว่า เลยต้องสร้างภาพว่ายอมรับได้ เพื่อประคองให้วันทำงานผ่านไปอีกวัน
4. “ไม่เหนื่อยเลย ชิลๆ”
จริงๆ แล้วทุกคืนกลับบ้านด้วยหัวใจที่เหมือนโดนบีบ ร่างกายที่อยากล้มลงนอนตรงนั้น แต่โลกของคนทำงานมักบังคับให้เราเป็น “คนเก่ง” ที่ไม่ควรบ่น
5. “อีกหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้น”
คำโกหกที่หวังดีต่อใจตัวเอง เพราะถ้าบอกตามจริงว่ามันอาจไม่มีวันดีขึ้นเลย ก็ไม่รู้จะเอาแรงใจจากไหนมาสู้ต่อ
6. “ทำงานที่รักสิ แล้วจะไม่รู้สึกว่าทำงาน”
นี่คือคำพูดสวยงามที่โลกภายนอกบอกเรา แต่ความจริงคือ… ถึงจะรักงานแค่ไหน เมื่อความรับผิดชอบทับถม จิตใจก็ยังเหนื่อยอยู่ดี
7. “ลาออกแล้วคงสบาย”
แต่พอถึงวันที่ลาออกจริงๆ ถึงรู้ว่าไม่ได้สบาย มีแค่ความว่างเปล่ากับความไม่แน่ใจว่าทางข้างหน้าจะดีกว่าหรือแย่กว่าเดิม
8. “ฉันทำได้ทุกอย่าง”
ประโยคที่บอกคนอื่น เพื่อให้เขามองว่าเราเก่งรอบด้าน แต่ข้างในกลับหวังลึกๆ ว่าใครสักคนจะมองเห็นว่า… เราก็เป็นแค่คนธรรมดาที่อยากพักบ้าง
9. “เงินเดือนไม่สำคัญหรอก สำคัญคือประสบการณ์”
ประสบการณ์มันดี… แต่สุดท้ายก็รู้ว่า ความเครียดและค่าใช้จ่ายไม่เคยลดลงตามคำปลอบใจนี้เลย
10. “เราคือทีมเดียวกัน”
บางที่ทำงานพูดเสมอ แต่ในวันที่เกิดปัญหา กลับพบว่าความเป็น “ทีม” ถูกแทนด้วยคำว่า “ตัวใครตัวมัน” อย่างเจ็บปวด
…ในโลกการทำงาน เราทุกคนต่างสร้างคำโกหกเล็กๆ เพื่อประคองตัวเอง เพื่อให้ยังยิ้มได้ เพื่อให้ยังไปต่อ
แต่ในวันที่ใจเหนื่อยจนแทบไม่ไหว อย่าลืมพูด “ความจริง” กับตัวเองบ้าง
เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเก่งตลอดเวลา… และไม่จำเป็นต้องแบกโลกไว้คนเดียว